โรคลมร้อน
Heat Stroke โรคลมแดด
โดย Momypedia
อากาศร้อนขึ้นทุกปี โดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อนที่หลายคนบ่นว่าแทบไม่อยากออกจากบ้านไปโดนแดดเลย แต่หน้าร้อนแบบนี้ใช่ว่าต้องระวังแต่แดดเท่านั้น แต่ไอร้อนจากแดดและการควรคุมความร้อนที่ร่างกายได้รับก็สำคัญค่ะ เพราะคุณอาจจะเสี่ยงกับอาการ Heat Strokeโรคลมแดดแบบไม่รู้ตัว
Heat Stroke หรือ โรคลมแดด เป็นโรคที่เกิดจากร่างกายได้ความร้อนมากเกินไป หรือการออกกำลังกายอย่างหนักจนร่างกายไม่สามารถควบคุมความร้อน หรือไม่สามารถระบายความร้อนได้ทันจนร่างกายเสียสมดุล ซึ่งมีอาการบ่งชี้เบื้องต้นได้แก่
- อุณหภูมิร่างกายสูงเกิน 40 องศาเซลเซียส
- ไม่มีเหงื่อออก และตัวร้อนจัดขึ้นเรื่อยๆ
- เมื่อยล้า อ่อนเพลีย
- วิงเวียน คลื่นไส้ ความดันโลหิตตกลง

ผู้ที่เสี่ยงกับการเป็นโรคลมแดด Heat Stroke ได้แก่ ผู้ที่ออกกำลังกายอย่างหนัก และผู้สูงอายุ เพราะร่างกายจะมีการอุณหภูมิได้ช้ากว่าปกติ รวมไปถึงผู้ที่ต้องอยู่ในที่มีอุณหภูมิร้อน อบอ้าวตลอดเวลา เช่น กิจกรรมกลางแจ้ง การอยู่ในรถที่จอดทิ้งไว้กลางแดด เป็นต้น
ดังนั้นหากมีความจำเป็นต้องอยู่ในที่ร้อน ก็ควรจะเดินไปพักในที่ร่มหรือที่มีลมระบายอากาศบ้างเพื่อให้ร่างกายได้ปรับอุณหภูมิ เพื่อการป้องกันการเกิด โรคลมแดด Heat Stroke ในช่วงหน้าร้อนแบบนี้
วิธีป้องกันไม่ให้เกิดโรคลมแดด Heat Stroke
- ก่อนออกไปกลางแจ้งหรือที่ร้อนควรดื่มน้ำก่อน 1-2 แก้ว เพื่อให้ร่างกายสดชื่น
- ไม่ใส่เสื้อผ้าสีเข้มและหนาเกินไป เพราะจะทำให้ร่างกายได้รับความร้อนจากแดดมากกว้าเสื้อผ้าเนื้อบางและสีอ่อน
- ช่วงหน้าร้อนไม่ควรดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดเพราะจะยิ่งเพิ่มความร้อนในร่างกาย
- ในระหว่างวันควรดื่นน้ำประมาณ 2 ลิตรต่อวัน เพื่อให้ร่างกายปรับอุณหภูมิได้ดี
- เลี่ยงการอยู่ในที่ร้อน อบอ้าวเป็นเวลานาน ควรอยู่ในที่อากาศถ่ายเทสะดวก
หากพบผู้ที่มีอาการของโรคลมแดด Heat Stroke ให้ช่วยกันปฐมพยาบาลเบื้องต้นดังต่อไปนี้ค่ะ
- นำผู้มีอาการเข้าร่ม นอนราบ ยกเท้าสูงทั้งสองข้าง ถอดเสื้อผ้าออก
- ใช้ผ้าชุบน้ำเย็นหรือน้ำแข็งประคบตามซอกตัว คอ รักแร้ เชิงกราน ศรีษะ ร่วมกับการใช้พัดลมเป่าระบายความร้อน
- เทน้ำเย็นราดลงบนตัวเพื่อลดอุณหภูมิร่างกายให้ลดต่ำลงโดยเร็วที่สุด แล้วรีบนำส่งโรงพยาบาล
โลกร้อนกับหน้าร้อนแบบนี้อย่า ได้นิ่งนอนใจนะคะ โดยเฉพาะผู้สูงอายุและเด็กเล็กเราควรดูแลอย่างใกล้ชิดค่ะรวมถึงระวังสุขภาพ ของตัวเราเองด้วยค่ะ
วันนี้คุณดื่มน้ำให้ร่างกายสดชื่นแล้วหรือยังคะ
ขอขอบคุณข้อมูลความรู้ดีๆ : Momypedia
จาก : http://www.momypedia.com